วันพฤหัสบดีที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2557
บันทึกการเรียน ครั้งที่ 5
ประจำวันพฤหัสบดี ที่ 25 กันยายน 2557
แนวทางการจัดประสบการณ์ทางภาษาสำหรับเด็กปฐมวัย
- เป็นสิ่งที่สะท้อนปรัชญาและความเชื่อของครูเกี่ยวกับการเรียนรู้ภาษาของเด็ก
-นำไปสู่การกำหนดกระบวนการที่ใช้อย่างแตกต่างกัน
Richard and Rodger (1995) ได้แบ่งมุมมองต่อภาษาในการจัดประสบการณ์เป็น 3 กลุ่ม
1. มุมมองด้านโครงสร้างของภาษา
- นำองค์ประกอบย่อยของภาษามาใช้ในการสื่อสาร
2. มุมมองด้านหน้าที่ของภาษา
- การจัดประสบการณ์เน้นการสื่อสาร
3.มุมมองด้านปฏิสัมพันธ์
- การแลกเปลี่ยนประสบการณ์
- เด็กมีปฏิสัมพันธ์ผ่านการใช้ภาษา
การจัดประสบการณ์ทางภาษาที่เน้นทักษะภาษา
- ให้เด็กรู้จักส่วนย่อยๆของภาษา
- การประสมคำความหมายของคำ
ธรรมชาติของเด็กปฐมวัย
- สนใจอยากรู้ อยากเห็น
- ช่างสงสัย ช่างชักถาม
- มีความคิดสร้างสรรค์
การสอนภาษาแบบธรรมชาติ
เป็นการเรียนภาษาแบบองค์รวม
-สอนแบบบูรณาการ /องค์รวม
-สอนในสิ่งที่เด็กสนใจและมีความหมายสำหรับเด็ก
-สอดแทรกการฝึกทักษะ การฟัง พูด อ่าน เขียน
-ไม่เข้มงวดกับการท่อง สะกด
หลักการของการสอนภาษาแบบธรรมชาติ
1. การจัดสภาพแวดล้อม
2. การสื่อสารที่มีความหมาย
3. การเป็นแบบอย่าง
4. การตั้งความคาดหวัง
5. การคาดคะเน
6. การใช้ข้อมูลย้อนกลับ
7. การยอมรับนับถือ
8. การสร้างความรู้สึกเชื่อมั่น
สรุปจากการดูวีดีโอ เรื่องภาษาธรรมชาติเป็น My mapping
อาจารย์แจกชีสเพลง และสอนร้องเพลง 10 เพลง
ประโยชน์ที่ได้
สามารถนำความรู้ที่ได้ในวันนี้ไปประยุกต์ใช้ในการประกอบอาชีพได้ โดยเฉพาะอาชีพครู เพราะภาษาธรรมชาติเป็นภาษาที่สำคัญในการใช้สอนเด็กปฐมวัย และเพลงเป็นสิ่งที่สำคัญมากอีกอย่างหนึ่งที่ขาดไม่ได้ในการสอนเด็กปฐมวัย
ประเมินตัวเอง
ตั้งใจฟังตั้งใจเรียนในสิ่งที่อาจารย์สอนและตั้งใจดูวิดีโอที่อาจารย์เปิดให้ดู
ประเมินอาจารย์
อาจารย์เข้าสอนตรงเวลามีวิดีโอเข้ามาในการสอนทำให้การเรียนหน้าสนใจเพิ่มมากขึ้น
ประเมินเพื่อน
เพื่อนตั้งใจดูวิดีโอและช่วยกันร้องเพลงที่ครูสอน
วันพฤหัสบดีที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2557
บันทึกการเรียน ครั้งที่ 4
ประจำวันพฤหัสบดี ที่ 18 กันยายน 2557
นำเสนองานในหัวข้อทักษะภาษาสำหรับเด็กปฐมวัย ฟัง พูด อ่าน เขียน
1. การฟัง กลุ่ม 101
ทักษะการฟัง
การฟังคือ กระบวนการของการได้ยินแล้วใช้เสมอแปลความหมาย
วัย 2 ขวบ ชอบฟังอะไรที่มันสั้นๆ และเสียงของธรรมชาติ
2.การพูดสำหรับเด็กปฐมวัย กลุ่ม 101 ,102
เด็กสามารถพูดออกเป็นคำได้ตั้งแต่ 9-10 เดือน และเริ่มเลียนแบบเสียงที่เขาได้ยิน
2-3 ขวบ จะเริ่มรู้คำศัพท์เพิ่มมากขึ้น จาก 50 คำ เป็น 300 คำ
เมื่อ 3 ขวบ สามารถพูดประโยคที่ซับซ้อนขึ้นได้
พัฒนาการทางด้านภาษา
-การรับรู้และการเข้าใจภาษา
-การแสดงออกและการพูด
แนวทางการสอนเด็กปัญญาอ่อน
-เวลาสอนควรใช้ภาษาระดับเดียวกัน
-ในระยะแรกเริ่มสอนตั้งแต่คำพยางค์เดียวก่อน
อนุบาล 1 ชอบพูดเป็นคำ คำเดียวโดดๆ
อนุบาล 2 พูดเป็นประโยชน์สั้นๆ
อนุบาล 3 ประโยชน์จะสมบูรณ์แบบ เริ่มมีคำวิเศษณ์เข้ามาในการพูด
3. การอ่าน กลุ่ม 101, 102
สิ่งที่ได้ในวันนี้ทำให้เราสามารถนำทักษะ การฟัง การพูด การอ่าน การเขียน ไปใช้ประโยชน์ในการประกอบอาชีพได้ต่อไปในอนาคต โดยเฉพาะ อาชีพครูมีความจำเป็นมากๆที่จะใช้ทักษะเหล่านี้ในการประกอบวิชาชีพครู
ประเมินตัวเอง
ตั้งใจเรียนตั้งใจฟังที่อาจารย์สอนกล้าแสดงออก
ประเมินอาจารย์
อาจารย์ให้นำเสนองานฝึกให้นักศึกษากล้าแสดงออก
ประเมินเพื่อน
เพื่อนกล้าแสดงออกโดยการออกไปนำเสนองานแต่ก็มีเพื่อนบางคนไม่ตั้งใจฟังการนำเสนอในส่วนรวมถือว่าดีมาก
ประจำวันพฤหัสบดี ที่ 18 กันยายน 2557
นำเสนองานในหัวข้อทักษะภาษาสำหรับเด็กปฐมวัย ฟัง พูด อ่าน เขียน
1. การฟัง กลุ่ม 101
ทักษะการฟัง
การฟังคือ กระบวนการของการได้ยินแล้วใช้เสมอแปลความหมาย
วัย 2 ขวบ ชอบฟังอะไรที่มันสั้นๆ และเสียงของธรรมชาติ
2.การพูดสำหรับเด็กปฐมวัย กลุ่ม 101 ,102
เด็กสามารถพูดออกเป็นคำได้ตั้งแต่ 9-10 เดือน และเริ่มเลียนแบบเสียงที่เขาได้ยิน
2-3 ขวบ จะเริ่มรู้คำศัพท์เพิ่มมากขึ้น จาก 50 คำ เป็น 300 คำ
เมื่อ 3 ขวบ สามารถพูดประโยคที่ซับซ้อนขึ้นได้
พัฒนาการทางด้านภาษา
-การรับรู้และการเข้าใจภาษา
-การแสดงออกและการพูด
แนวทางการสอนเด็กปัญญาอ่อน
-เวลาสอนควรใช้ภาษาระดับเดียวกัน
-ในระยะแรกเริ่มสอนตั้งแต่คำพยางค์เดียวก่อน
อนุบาล 1 ชอบพูดเป็นคำ คำเดียวโดดๆ
อนุบาล 2 พูดเป็นประโยชน์สั้นๆ
อนุบาล 3 ประโยชน์จะสมบูรณ์แบบ เริ่มมีคำวิเศษณ์เข้ามาในการพูด
3. การอ่าน กลุ่ม 101, 102
การอ่าน คือ กระบวนการที่ผู้อ่านรับรู้สารซึ่งเป็นความรู้ ความคิด ความรู้สึก และ ความคิดเห็นที่ผู้เขียนถ่ายทอดออกมาเป็นลายลักษณ์อักษร
วัยทารก (infant) : 1 ขวบปีแรก
- 6-8 เดือนแรกเด็กทุกคนเริ่มสามารถรับรู้ความแตกต่างของหน่วยเสียงที่มีอยู่ในทุกภาษาทั่วโลกได้
- ก่อนอายุ 10 เดือนเด็กจะเริ่มปรับความสามารถให้เข้ากับหน่วยเสียงและไวยากรณ์ของภาษาแม่หรือผู้เลี้ยงดู
- หลังจากอายุ 10 เดือนความสามารถดังกล่าวเริ่มจำกัดการพัฒนาอยู่เฉพาะในภาษาแม่
วัยเตาะแตะ (toddler) : 1-3 ปี
- เด็กให้ความสนใจเสียงที่เด็กไม่สามารถพูดได้
- แสดงความสนใจเสียงหรือกลุ่มเสียงที่เหมือนกันเมื่อมีการอ่านกลอน หรือเล่าเรื่องนิทานที่มีคำคล้องจอง
- เริ่ม มีการเชื่อมโยงเสียงกับตัวอักษร เช่น เมื่อเด็กอ่านหนังสือกับผู้เลี้ยงดู เด็กจะชี้และพยายามออกเสียงตามตัวอักษร หรือใช้คำจากภาษาพูดเพื่อเชื่อมโยงเสียงกับตัวอักษร เช่น /d/daddy, /b/bee, /ก/ไก่, /จ/จาน
วัยก่อนเรียนระยะต้น(early preschool) : อายุ 3-4 ปี
- มีความสนใจเสียงต่าง ๆ ของภาษา โดยเฉพาะ "คำคล้องจอง" (rhyme) ที่มีในเพลง
- บอกตัวอักษรได้ 10 ตัว โดยเฉพาะตัวอักษรที่อยู่ในชื่อของเด็ก
วัยก่อนเรียนระยะปลาย(late preschool) : อายุ 4-5 ปี - สามารถ แยกพยางค์ในคำที่ฟังได้ (ร้อยละ 50 เด็กสามารถบอกจำนวนพยางค์ในคำที่ฟังได้) wa แก้ว-น้ำ, water (เช่น แก้วน้ำ-ter เป็นคำที่มีสองพยางค์ เป็นต้น)
- เริ่มแยกหน่วยเสียงย่อย ในคำที่ฟังได้ (ร้อยละ 20 เด็กสามารถบอกจำนวนหน่วยเสียงย่อยในคำที่ฟังได้)
วัยอนุบาลตอนต้น(beginning kindergarten) : อายุ 5-5 ½ ปี
- สามารถเปรียบเทียบคำสองคำที่ฟังว่าคล้องจองกันหรือไม่ (เช่น กา-ขา, cat-bat)
- สามารถบอกคำที่มีเสียงคล้องจองกับคำที่ฟังได้
- สามารถบอกตัวอักษรได้เกือบทุกตัว
- 6-8 เดือนแรกเด็กทุกคนเริ่มสามารถรับรู้ความแตกต่างของหน่วยเสียงที่มีอยู่ในทุกภาษาทั่วโลกได้
- ก่อนอายุ 10 เดือนเด็กจะเริ่มปรับความสามารถให้เข้ากับหน่วยเสียงและไวยากรณ์ของภาษาแม่หรือผู้เลี้ยงดู
- หลังจากอายุ 10 เดือนความสามารถดังกล่าวเริ่มจำกัดการพัฒนาอยู่เฉพาะในภาษาแม่
วัยเตาะแตะ (toddler) : 1-3 ปี
- เด็กให้ความสนใจเสียงที่เด็กไม่สามารถพูดได้
- แสดงความสนใจเสียงหรือกลุ่มเสียงที่เหมือนกันเมื่อมีการอ่านกลอน หรือเล่าเรื่องนิทานที่มีคำคล้องจอง
- เริ่ม มีการเชื่อมโยงเสียงกับตัวอักษร เช่น เมื่อเด็กอ่านหนังสือกับผู้เลี้ยงดู เด็กจะชี้และพยายามออกเสียงตามตัวอักษร หรือใช้คำจากภาษาพูดเพื่อเชื่อมโยงเสียงกับตัวอักษร เช่น /d/daddy, /b/bee, /ก/ไก่, /จ/จาน
วัยก่อนเรียนระยะต้น(early preschool) : อายุ 3-4 ปี
- มีความสนใจเสียงต่าง ๆ ของภาษา โดยเฉพาะ "คำคล้องจอง" (rhyme) ที่มีในเพลง
- บอกตัวอักษรได้ 10 ตัว โดยเฉพาะตัวอักษรที่อยู่ในชื่อของเด็ก
วัยก่อนเรียนระยะปลาย(late preschool) : อายุ 4-5 ปี - สามารถ แยกพยางค์ในคำที่ฟังได้ (ร้อยละ 50 เด็กสามารถบอกจำนวนพยางค์ในคำที่ฟังได้) wa แก้ว-น้ำ, water (เช่น แก้วน้ำ-ter เป็นคำที่มีสองพยางค์ เป็นต้น)
- เริ่มแยกหน่วยเสียงย่อย ในคำที่ฟังได้ (ร้อยละ 20 เด็กสามารถบอกจำนวนหน่วยเสียงย่อยในคำที่ฟังได้)
วัยอนุบาลตอนต้น(beginning kindergarten) : อายุ 5-5 ½ ปี
- สามารถเปรียบเทียบคำสองคำที่ฟังว่าคล้องจองกันหรือไม่ (เช่น กา-ขา, cat-bat)
- สามารถบอกคำที่มีเสียงคล้องจองกับคำที่ฟังได้
- สามารถบอกตัวอักษรได้เกือบทุกตัว
4. การเขียน กลุ่ม 101, 102
การเขียนของเด็กปฐมวัย คือ การเขียนถ่ายทอดเรื่องราวความคิดออกมาอย่างมีความหมาย
อวัยวะที่เกี่ยวข้องกับการเขียน
-มือ
-ตา
-สมองหรือสติปัญญา
กิจกรรมที่ส่งเสริมการเขียน
-กิจกรรมภายในครอบครัว
-กิจกรรมจากทางโรงเรียน เช่น กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์
5. อาจารย์สอนร้องทบทวนเพลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
สิ่งที่ได้และนำไปใช้ในอนาคต
ประเมินตัวเอง
ตั้งใจเรียนตั้งใจฟังที่อาจารย์สอนกล้าแสดงออก
ประเมินอาจารย์
อาจารย์ให้นำเสนองานฝึกให้นักศึกษากล้าแสดงออก
ประเมินเพื่อน
เพื่อนกล้าแสดงออกโดยการออกไปนำเสนองานแต่ก็มีเพื่อนบางคนไม่ตั้งใจฟังการนำเสนอในส่วนรวมถือว่าดีมาก
วันพุธที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2557
บันทึกการเรียนครั้งที่ 3
ประจำวันพฤหัสบดี ที่ 11 กันยายน 2557
1. แนวคิดกลุ่มพฤติกรรมนิยม
- Skinner สิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งที่พัฒนาการของเด็ก (สิ่งเร้า)
- John B.Watson พฤติกรรมเด็กสามารถสั่งได้
2. แนวคิดกลุ่มพัฒนาทางสติปัญญา
- Vygotsky เด็กเรียนรู้จากสิ่งแวดล้อมรอบๆตัวของเด็ก
ผู้ใหญ่มีหน้าที่ชี้แนะ ช่วยเหลือ ส่งเสริม และเป็นกำลังใจให้
- Piaget เด็กมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม
3. แนวคิดเชื่อเรื่องความพร้อมของร่างกาย
- Arnold Gesell
4. แนวคิดของกลุ่มเชื่อว่าภาษาติดตัวเด็กมาตั้งแต่เกิด
- Noam Chomsky
- O. Hobart Miwrer (คิดค้นทฤษฎีเกี่ยวกับความพึงพอใจ)
5. ครูสอนร้องเพลง 10 เพลง
คุณครูให้ทำกิจกรรมวาดรูปสิ่งที่ตัวเองชอบที่สุด
ประโยชน์ที่ได้
-ได้เรียนรู้ทฤษฎีต่างๆที่เกี่ยวกัพฤติกรรมสำหรับเด็กปฐมวัย การพัฒนาการทางด้านต่างๆ
-ได้มีความคิดสร้างสรรค์วาดรูปในสิ่งที่ตัวเองชิบ
-ได้รู้เพลงปฐมวัยเพิ่มมากขึ้น
ประเมินตัวเอง
ตั้งใจเรียนและตั้งใจทำงานที่ได้รับมอบหมาย
ประเมินอาจารย์
อาจารย์เป็นกันเองให้ความสนใจนักศึกษา
ประเมินเพื่อน
เพื่อนตั้งใจเรียนและทำงานที่ครูได้มอบหมายให้ทำ
ประจำวันพฤหัสบดี ที่ 11 กันยายน 2557
แนวคิดนักการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาภาษาของเด็กปฐมวัย
1. แนวคิดกลุ่มพฤติกรรมนิยม
- Skinner สิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งที่พัฒนาการของเด็ก (สิ่งเร้า)
- John B.Watson พฤติกรรมเด็กสามารถสั่งได้
2. แนวคิดกลุ่มพัฒนาทางสติปัญญา
- Vygotsky เด็กเรียนรู้จากสิ่งแวดล้อมรอบๆตัวของเด็ก
ผู้ใหญ่มีหน้าที่ชี้แนะ ช่วยเหลือ ส่งเสริม และเป็นกำลังใจให้
- Piaget เด็กมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม
3. แนวคิดเชื่อเรื่องความพร้อมของร่างกาย
- Arnold Gesell
4. แนวคิดของกลุ่มเชื่อว่าภาษาติดตัวเด็กมาตั้งแต่เกิด
- Noam Chomsky
- O. Hobart Miwrer (คิดค้นทฤษฎีเกี่ยวกับความพึงพอใจ)
5. ครูสอนร้องเพลง 10 เพลง
คุณครูให้ทำกิจกรรมวาดรูปสิ่งที่ตัวเองชอบที่สุด
-ได้เรียนรู้ทฤษฎีต่างๆที่เกี่ยวกัพฤติกรรมสำหรับเด็กปฐมวัย การพัฒนาการทางด้านต่างๆ
-ได้มีความคิดสร้างสรรค์วาดรูปในสิ่งที่ตัวเองชิบ
-ได้รู้เพลงปฐมวัยเพิ่มมากขึ้น
ประเมินตัวเอง
ตั้งใจเรียนและตั้งใจทำงานที่ได้รับมอบหมาย
ประเมินอาจารย์
อาจารย์เป็นกันเองให้ความสนใจนักศึกษา
ประเมินเพื่อน
เพื่อนตั้งใจเรียนและทำงานที่ครูได้มอบหมายให้ทำ
วันอังคารที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2557
บันทึกการเรียนครั้งที่ 2
วันที่ 4 กันยาน 2557
ภาษาหมายถึง การสื่อความหมายเป็นเครื่องมือในการแสดงความคิดและความรู้สึก
องค์ประกอบของภาษา
ประโยชน์ที่ได้
ได้รู้จักภาษามากขึ้น ได้รู้ว่าองค์ประกอบของภาษามีอะไรบ้างเพราะภาษาเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้จะประกอบอาชีพครูต้องเรียนรู้เพราะจำเป็นอย่างมากในการเรียนการสอน
ประเมินตัวเอง
ตั้งใจเรียน ไม่พูดคุยกันเสียง ตั้งใจฟังในสิ่งที่อาจารย์สอน
ประเมินอาจารย์
เข้าสอนตรงเวลา มีเนื้อหาที่ละเอียดในการใช้สอน การอธิบายบรรยายได้เข้าใจดี
ประเมินเพื่อน
มีบางครั้งที่พูดคุยกันเสียงดังเกินไปต้องปรับปรุงตัว
วันที่ 4 กันยาน 2557
ภาษาหมายถึง การสื่อความหมายเป็นเครื่องมือในการแสดงความคิดและความรู้สึก
องค์ประกอบของภาษา
ประโยชน์ที่ได้
ได้รู้จักภาษามากขึ้น ได้รู้ว่าองค์ประกอบของภาษามีอะไรบ้างเพราะภาษาเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้จะประกอบอาชีพครูต้องเรียนรู้เพราะจำเป็นอย่างมากในการเรียนการสอน
ประเมินตัวเอง
ตั้งใจเรียน ไม่พูดคุยกันเสียง ตั้งใจฟังในสิ่งที่อาจารย์สอน
ประเมินอาจารย์
เข้าสอนตรงเวลา มีเนื้อหาที่ละเอียดในการใช้สอน การอธิบายบรรยายได้เข้าใจดี
ประเมินเพื่อน
มีบางครั้งที่พูดคุยกันเสียงดังเกินไปต้องปรับปรุงตัว
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)